[Review] Voyager 4200 Office Series

หูฟังบลูทูธไร้สาย เพื่อการทำงานในแบบ Hybrid Workplace 

เชื่อมต่อใช้งานได้หลากหลาย สนทนาได้ทุกสถานการณ์

   เป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของหูฟังบลูทูธไร้สาย Voyager 4200 UC Series สู่รุ่นที่โปรขึ้นไปอีกระดับกับ Voyager 4200 Office Series ซึ่งหูฟังรุ่นนี้เหมาะกับการทำงานในแบบ Hybrid Workplace มากยิ่งขึ้น และรุ่นท็อปสุดของ Voyager 4200 Office Series สามารถเชื่อมต่อใช้งานได้ทั้งหมด 3 อุปกรณ์พร้อมกัน คือ Computer, Desk phone และ Mobile phone ด้วยหูฟังเพียงตัวเดียว ไม่รอช้าไปดูอุปกรณ์ที่เค้าให้มากันดีกว่าครับ

What's in the box

• Voyager 4200 headset

• Base 

• Telephone Interface cable

• Micro USB cable

• Power Adapter

Apperance

   Voyager 4200 Office Series จะใช้หูฟังรุ่นเดียวกับ Voyager 4200 UC Series เพราะฉะนั้นเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ปุ่มคำสั่งควบคุมการใช้งานต่างๆจะเหมือนกันทุกประการ สามารถตามไปดูวิธีการสั่งงานคำสั่งต่างๆผ่านปุ่มควบคุมที่หูฟัง Voyager 4200 ได้จากลิงก์นี้ครับ กดที่นี่

   แต่สำหรับรุ่น Voyager 4200 Office Series, 2-WAY BASE, Microsoft Teams จะมีสัญลักษณ์ Microsoft Teams สีม่วงอยู่ตรงปุ่มกดรับ/วางสายของหูฟัง เป็นความพิเศษที่เพิ่มเข้ามาสำหรับรุ่น Microsoft Teams โดยเฉพาะ โดยสามารถกดที่ปุ่มนี้เพื่อเรียก Microsoft Teams บน PC/Mac ให้มาปรากฏที่หน้าจอพร้อมใช้งาน และปุ่มเดียวกันนี้ก็ทำหน้าที่ในการกดเพื่อรับ/วางสายสนทนา, เล่นหรือหยุดเพลงอีกด้วย

   มาดูในส่วนของอุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ไม่มีในรุ่นของ Voyager 4200 UC Series นั่นคือตัว Base ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้นี่แหละที่จะเป็นตัวกำหนดรุ่นย่อยของ Voyager 4200 Office Series อีกที ดังตารางเปรียบเทียบด้านล่าง

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างในแต่ละรุ่นของ Voyager 4200 Office Series

   ตัวฐานที่ตั้งหูฟังของ Voyager 4200 Office Series เป็นเหมือน switcher ตัวหนึ่ง ทำหน้าที่หลายอย่างให้กับหูฟัง เป็นทั้งแท่นชาร์จ, ตัวส่งสัญญาณบลูทูธ, เครื่องขยายเสียง และยังทำหน้าที่เป็น switcher เพื่อให้หูฟัง Voyager 4200 สลับใช้งานได้ทั้ง desk phone, computer และ mobile phone ได้ด้วยหูฟังเพียงชุดเดียว

   จากตารางเปรียบเทียบด้านบน สังเกตได้ว่าในแต่ละรุ่นของ Voyager 4200 Office Series จะมีรุ่นที่เรียกว่า 1-WAY BASE และ 2-WAY BASE ให้เลือก ขอขยายความเพิ่มเติมให้เข้าใจตรงกันว่า รุ่น 1-WAY BASE จะสามารถเชื่อมต่อหูฟังใช้งานได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์คือ desk phone และ mobile phone ส่วนรุ่น 2-WAY BASE จะเชื่อมต่อหูฟังได้พร้อมกัน 3 อุปกรณ์คือ desk phone, computer และ mobile phone 

   Voyager 4200 Office, 1-WAY BASE และ 2-WAY BASE จะมีจุดชาร์จหูฟังบนตัว Base ที่ตำแหน่งเดียวกัน โดยให้วางหูฟัง Voyager 4200 ฝั่งไมโครโฟนลงบนบ่าชาร์จด้านหน้าของ Base จะทำการชาร์จหูฟังให้ทันที พร้อมกับไฟรูปแบตฯแสดงสถานะการชาร์จของหูฟังอย่างชัดเจน

ด้านหน้าของ Base ใต้บ่าชาร์จหูฟังจะมีปุ่มรูปต่างๆที่สามารถกดได้ดังนี้ 

• รุ่น 1-WAY BASE จะมีรูป desk phone (เครื่องโทรศัพท์) อยู่ตรงกลาง ไม่สามารถกดได้

• รุ่น 2-WAY BASE จะมีปุ่มกด computer อยู่ฝั่งซ้าย และ desk phone อยู่ฝั่งขวา

• รุ่น 2-WAY BASE, Microsoft Teams จะมีปุ่มกด computer อยู่ฝั่งซ้าย, desk phone อยู่ฝั่งขวา และพิเศษกว่ารุ่นอื่นคือจะมีปุ่ม Microsoft Teams สีม่วงๆอยู่ตรงกลาง ทำหน้าที่เรียกใช้ Microsoft Teams และจะมีไฟสีม่วงกะพริบเมื่อมีการแจ้งเตือนต่างๆจาก Microsoft Teams 

   Voyager 4200 Office, 2-WAY BASE จะสามารถกดที่ปุ่มรูป desk phone และ computer เพื่อสลับใช้งานหูฟังไปมาระหว่าง desk phone และ computer ได้ทันที ส่วนรุ่น 1-WAY BASE จะเป็นรุ่นเดียวที่ไม่มีปุ่มให้กดที่รูป desk phone เพราะรุ่นนี้ไม่รองรับการใช้งานเครื่อง computer จึงไม่จำเป็นต้องมีปุ่มกดเพื่อสลับใช้งานหูฟัง

   ด้านหลังของ Base จะเป็นจุดเชื่อมต่อสายสัญญาณต่างๆ และมีปุ่มสำหรับเชื่อมต่อหูฟัง(pairing) กับ Base ในกรณีที่หูฟังตัวเดิมแบตฯเสื่อมหรือเสียไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป และต้องการนำหูฟังตัวใหม่มาใช้คู่กับ Base ตัวเดิม

Performance

   เรื่องของคุณภาพเสียงสนทนาและเสียงเพลงจาก Voyager 4200 Office Series ไม่ต่างจาก Voyager 4200 UC Series รุ่นก่อนหน้าเพราะใช้หูฟังตัวเดียวกัน แต่ด้วยความที่เป็นชุดหูฟังบลูทูธไร้สายสำหรับ Office ความสามารถในการใช้งานจึงมีมากกว่า เปลี่ยนจากการเชื่อมต่อกับ PC/Mac ผ่าน USB Bluetooth Adapter BT600 มาเป็นการเชื่อมต่อผ่านตัว Base ทำให้ระยะในการใช้งานระหว่างหูฟัง Voyager 4200 กับตัว Base ไปได้ไกลสูงสุดถึง 91 เมตร เพราะมีกำลังส่งสัญญาณที่ดีกว่าทำให้ไปได้ไกลขึ้นกว่ารุ่น UC Series สามารถที่จะเลือกฟังเพลงหรือคลิปเสียงได้ทั้งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ PC/Mac หรือโทรศัพท์มือถือ mobile phone ได้ โดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มที่เลือกช่องสัญญาณที่ตัว Base เพื่อสลับการใช้งานหูฟังกับอุปกรณ์ ค่อนข้างยืดหยุ่นในการใช้งานเลยทีเดียว

   สำหรับ Voyager 4200 Office, 2-WAY BASE ที่เชื่อมต่อใช้งานได้ทั้ง computer, desk phone, mobile phone  และ Voyager 4200 Office, 1-WAY BASE (กรณีที่ใช้งานกับ desk phone) จะมีวิธีใช้งานตามสถานการณ์ต่างๆดังนี้

การโทรออกผ่านเครื่อง Desk phone (กรณีที่มีอุปกรณ์เสริม HL10 หรือ EHS)

• กดปุ่ม desk phone ที่ Base 1 ครั้งจนได้ยินเสียง dial tone

• กดหมายเลขปลายทางที่ต้องการ

การโทรออกผ่านเครื่อง Desk phone (กรณีที่ไม่มีอุปกรณ์เสริม HL10 หรือ EHS)

• กดปุ่ม desk phone ที่ Base 1 ครั้ง

• กดปุ่ม headset ที่เครื่อง desk phone 1 ครั้งจนได้ยินเสียง dial tone

• กดหมายเลขปลายทางที่ต้องการ 

การโทรออกผ่านเครื่อง Computer

• กดปุ่ม computer ที่ Base 1 ครั้ง

• คลิกเลือกหมายเลขหรือรายชื่อผู้ติดต่อใน softphone ที่ต้องการ

การรับและวางสายสนทนาจากเครื่อง Desk phone (กรณีที่มีอุปกรณ์เสริม HL10 หรือ EHS)

• กดปุ่มรับสายที่หูฟัง 1 ครั้ง หรือกดปุ่ม desk phone ที่ Base 1 ครั้ง เพื่อรับหรือวางสายสนทนา

การรับสายสนทนาจากเครื่อง Desk phone (กรณีที่ไม่มีอุปกรณ์เสริม HL10 หรือ EHS)

• กดปุ่ม desk phone ที่ Base 1 ครั้ง

• กดปุ่ม headset ที่เครื่อง desk phone 1 ครั้ง จนได้ยินเสียงคู่สนทนา

การวางสายสนทนาจากเครื่อง Desk phone (กรณีที่ไม่มีอุปกรณ์เสริม HL10 หรือ EHS)

• กดปุ่ม headset ที่เครื่อง desk phone 1 ครั้ง เพื่อจบการสนทนา

• กดปุ่ม desk phone ที่ Base 1 ครั้ง

การรับและวางสายสนทนาจากเครื่อง Computer

• กดปุ่มรับสายที่หูฟัง 1 ครั้ง หรือกดปุ่ม computer ที่ Base 1 ครั้ง เพื่อรับหรือวางสายสนทนา

การพักสายสนทนาจากเครื่อง Computer และ Desk phone ทำได้ 2 วิธี

• กดปุ่มรับสายที่หูฟังค้างไว้ 2 วินาที หรือ

• กดปุ่ม computer หรือ desk phone ค้างไว้ 2 วินาที จนขึ้นไฟสีแดงกะพริบที่ปุ่ม computer หรือ desk phone

เรียกใช้งาน Microsoft Teams (สำหรับรุ่น Microsoft Teams)

• กดปุ่ม Microsoft Teams ที่ Base 1 ครั้ง หรือ

• กดปุ่มรับสายที่หูฟัง 1 ครั้ง

การโทรออก/รับสายสนทนา/ฟังเพลง จากโทรศัพท์มือถือ

• สามารถควบคุมการใช้งานได้จากโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่ออยู่กับหูฟังได้ทันที

Troubleshooting

ในกรณีที่ผู้ใช้ไม่ได้ยินเสียงจากหูฟัง Voyager 4200 Office เมื่อใช้งานกับ Desk phone

• เครื่อง Desk phone ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเชื่อมต่อผ่าน Telephone Interface cable, HL10 หรือ EHS Cable ให้ปรับ configuration switch (A-G) ที่อยู่ใต้ Base ไปที่ตัว A ก่อนการติดตั้งใช้งาน

• สำหรับเครื่อง Cisco phone ที่ใช้งานร่วมกับ EHS Cable ให้ปรับ configuration switch ไปที่ตัว A ก่อนการติดตั้งใช้งาน

• สำหรับเครื่อง Cisco phone ที่ใช้ Telephone Interface cable ในการเชื่อมต่อผ่านช่อง headest ของ Cisco phone ให้ปรับ configuration switch ไปที่ตัว D ก่อนการติดตั้งใช้งาน

Accessories

   จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์เสริมอย่าง HL10 (Handset Lifter) และ EHS Cable (Electronic Hook Switch) มีความจำเป็นต่อการใช้งานของ Voyager 4200 Office เป็นอย่างมากเมื่อต้องใช้ร่วมกับ desk phone หรือเครื่องโทรศัพท์สำนักงาน เพราะถ้าหากไม่มีอุปกรณ์ 2 ตัวนี้เข้ามาช่วย การรับและวางสายสนทนาจากเครื่อง desk phone จะค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร จะต้องกดปุ่มทั้งที่หูฟังและที่ตัว Base หลายขั้นตอน แต่ถ้ามี HL10 หรือ EHS ติดตั้งรวมอยู่ด้วย จะสามารถกดรับและวางสายได้จากทุกๆที่ภายในรัศมีทำการของชุดหูฟังด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว 

เงื่อนไขในการเลือกใช้งานระหว่าง HL10 หรือ EHS มีอยู่นิดเดียวคือ

HL10 จะสามารถติดตั้งได้กับเครื่องโทรศัพท์ desk phone ได้เกือบทุกรุ่นที่มีชุดกระบอกหูฟัง handset วางอยู่บน hook switch แต่เวลาใช้งานก็อาจจะมีเสียงวางของกระบอกหูฟัง handset ได้ยินไปที่ปลายสายเบาๆได้บ้าง

EHS Cable จะใช้งานได้เฉพาะกับเครื่องโทรศัพท์ desk phone บางรุ่นที่รองรับ Electronic Hook Switch ซึ่งเวลารับหรือวางสายสนทนาจะไม่มีเสียงใดๆดังไปที่คู่สนทนา เพราะเป็นการแบบ electronic ที่ตัว Base จะไปสั่งให้เครื่องโทรศัพท์รับและวางสายจากปุ่ม headset ให้อัตโนมัติ 

(สามารถตรวจสอบเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้สาย EHS ได้กับทาง บ.ซิสเท็ม 2000 จำกัด)

Specifications

• หูฟังบลูทูธไร้สายแบบ On-ear พร้อม Base ส่งสัญญาณและชาร์จหูฟังในตัว

• Bluetooth 5.0 class 1 รองรับการใช้งานได้ระยะทางสูงสุด 91 เมตรจาก Base

• สนทนาต่อเนื่องสูงสุด 12 ชั่วโมง ฟังเพลงได้ยาวนาน 15 ชั่วโมง

• เชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 3 อุปกรณ์ (รุ่น 2-WAY BASE)

• Noise canceling microphone ตัดเสียงรบกวนรอบข้างด้วยไมค์ 2 ตัว

• รองรับการใช้งานผ่านสาย USB cable (corded mode)

• แจ้งเตือนสถานะการใช้งานของหูฟังเป็นเสียงพูด

• ปรับเปลี่ยนและตั้งค่าการใช้งานหูฟังในแบบที่ต้องการด้วยซอฟต์แวร์ Plantronics Hub

• น้ำหนัก 110 และ 150 กรัม สำหรับ  Voyager 4210 และ 4220 stereo

Conclusion

สำหรับผู้เขียน ถ้ามองในเรื่องของความคุ้มค่าที่จะได้จากการใช้งานของทั้ง 2 รุ่น 1-WAY BASE และ 2-WAY BASE แล้ว อยากแนะนำให้เลือกใช้รุ่น 2-WAY BASE ไปเลยจะคุ้มค่ากว่า เพิ่มเงินอีกเพียงนิดเดียวแต่จะสามารถใช้หูฟังเชื่อมต่อได้ถึง 3 อุปกรณ์ เพื่อการใช้งานที่ครอบคลุมมากขึ้น

Systems2000  รับประกันคุณภาพ

สนใจสั่งซื้อ คลิก

• VOYAGER 4120 OFFICE, 1-WAY BASE

• VOYAGER 4220 OFFICE, 1-WAY BASE 

• VOYAGER 4120 OFFICE, 2-WAY BASE 

• VOYAGER 4220 OFFICE, 2-WAY BASE

• VOYAGER 4210 OFFICE, 2-WAY BASE, MICROSOFT TREAMS

• VOYAGER 4220 OFFICE, 2-WAY BASE, MICROSOFT TREAMS